คำพิพากษาฎีกาที่ 11/2547
บริษัท นิวฯ จำกัด โจทก์
นายพนม จำเลย
เรื่อง 1. ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอย่างร้ายแรง
- โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมที่ 1-6 เป็นลูกจ้างของโจทก์ นางรุ่งทิพย์พาบุคคลภายนอกเข้าไปในโรงงานของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตหลายครั้ง กับนายคมสัน นายโกศล นายธารา นายสายชลและนายฉัตรมงคล ดื่มสุราจนมึนเมาแล้วใช้ขวดสุราปาที่บริเวณประตูรั้วโรงงานของโจทก์ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย โจทก์จึงเลิกจ้างบุคคลทั้งหกโดยไม่จ่ายค่าชดเชยและไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ต่อมาบุคคลทั้งหกได้ยื่นคำร้องต่อจำเลย ซึ่งเป็นพนักงานตรวจแรงงานว่าโจทก์เลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ขอให้เพิกถอนคำสั่ง
- จำเลยให้การว่า คำสั่งของจำเลยชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง จำเลยร่วมทั้งหกให้การว่า ไม่ได้กระทำผิดตาม ที่โจทก์กล่าวหา ขอให้ยกฟ้อง
- ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนของโจทก์ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้จำเลยร่วมทั้ง หกจำเลยและจำเลยร่วมทั้งหกอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
- ศาลฎีกา ประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยร่วมทั้งหกแต่เพียงว่าการที่จำเลยร่วมที่ 1 ชักนำนายสมบุญกับพวกเข้าไปดูการผลิตสินค้าในโรงงานของโจทก์และใช้เครื่องมือในโรงงานของโจทก์ทดสอบวัสดุที่จำเลยร่วมที่ 1 สั่งซื้อมาจากบริษัทอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์นั้นเป็นการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์กรณีร้ายแรงหรือไม่ เห็นว่า ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์ตามเอกสารหมาย ล.4 ข้อ 65 ระบุว่า “…ไม่นำสิ่งของใด ๆ ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น โดยมิได้รับอนุญาต” ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาได้ความว่า จำเลยร่วมที่ 1 ชักนำนายสมบุญกับพวก เข้าไปดูการผลิตในโรงงานของโจทก์และได้ใช้เครื่องมือในโรงงานของโจทก์ทดสอบวัสดุที่จำเลยร่วมที่ 1 สั่งซื้อมาจากบริษัทอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ ถึงแม้นายสมบุญเป็นสามีจำเลยร่วมที่ 1 แต่นายสมบุญกับพวกก็ไม่ใช่ลูกจ้างผู้ทำงานในโรงงานของโจทก์ที่จะมีสิทธิดูกระบวนการผลิตในโรงงานของโจทก์ การกระทำของจำเลยร่วม ที่ 1 ที่ชักนำนายสมบุญกับพวกเข้าไปดูการผลิตนอกจากจะเป็นการทำให้กรรมวิธีการผลิตซึ่งเป็นความลับทางการค้าของโจทก์รั่วไหลแล้ว จำเลยร่วมที่ 1 และนายสมบุญกับพวกยังได้ใช้เครื่องมือในโรงงานของโจทก์ทดสอบวัสดุที่จำเลยร่วมที่ 1 สั่งซื้อมาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์อีก อันเป็นการกระทำผิดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ การทำงานของโจทก์ข้อ 65 ซึ่งข้อ 86 ระบุว่าเป็นความผิดร้ายแรง การกระทำของจำเลยร่วมที่ 1 จึงเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง โจทก์เลิกจ้างจำเลยร่วมไม่ต้องตักเตือนและไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
- พิพากษายืน
*****************************************
รวบรวมโดยนายไพบูลย์ ธรรมสถิตย์มั่น (บ.1/16)
www.paiboonniti.com