When:
09/08/2022 @ 8:32 am – 9:32 am
2022-09-08T08:32:00+07:00
2022-09-08T09:32:00+07:00

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 976/2556

นายเครือ                                                                                                  โจทก์

บริษัทอิตา  จำกัด                                                                                     จำเลย

เรื่อง      1. โจทก์คัดเลือกผู้รับเหมาในการก่อสร้างบ้านพักคนงานโดยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและได้สั่งให้คนงานของจำเลยไปทำงานดังกล่าว เป็นการจงใจทำให้จำเลยเสียหายหรือไม่  โจทก์ฟ้องเรียกเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับจำเลยได้หรือไม่   

          1. โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยครั้งสุดท้ายโจทก์ดำรงตำแหน่งสมุห์บัญชีหน่วยงานและผู้จัดการฝ่ายธุรการ  ต่อมาวันที่  16   พฤษภาคม  2548  จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยทำเป็นหนังสืออ้างว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาต่อจำเลย  จงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย  ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับกรณีร้ายแรงผู้บังคับบัญชาของโจทก์ให้โจทก์เข้าทำงานต่อจนถึงวันที่  24  พฤษภาคม  2548  จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด  เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนของจำเลย  จำเลยให้การ  ฟ้องแย้ง โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยมีหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมงานในด้านบัญชีและการเงิน  จัดซื้อจัดหา  บุคคล  ธุรการ ประการภัย  คอมพิวเตอร์  และงานอื่นๆ โจทก์ประจำหน่วยงาน  เจ. 1494 โครงการก่อสร้างโรงแรม   สุวรรณภูมิแอร์พอร์ต  นอกจากนี้โจทก์ยังประจำหน่วย เจ. 1501  โครงการก่อสร้างโรงแรมริเวอร์ไซด์ การ์เด้น    มารีน่า  ส่วนที่หน่วยงาน  เจ.  1501  การ์เด้น  มารีน่า   ปรากฏว่าโจทก์ซึ่งเป็นสมุห์บัญชีและไม่มีคุณวุฒิทางวิศวกรรมได้คัดเลือกผู้รับเหมาในการสร้างบ้านพักคนงานด้วยตนเองโดยไม่มีวิศวกรเข้าร่วมในการพิจารณา  ทั้งในการจ้างผู้รับเหมาโจทก์ไม่ทำสัญญาจ้างตามระเบียบการจ้าง  คงมีเพียงในเสนอราคาของผู้รับเหมาเท่านั้น  โจทก์ดำเนินการจ้างโดยไม่มีการเสนอราคาหรือเปรียบเทียบราคา  หลังจากโจทก์สั่งจ้างแล้ว  ผู้รับเหมาทำการก่อสร้างไม่ครบถ้วนตามข้อตกลงโดยโจทก์จัดให้ลูกจ้างของจำเลยซึ่งประจำที่หน่วยงาน  เจ. 1494  ได้แก่คนงานชุดช่างเชื่อม  ช่างไม้  คนขับรถตัก เข้าไปช่วยงานของผู้รับเหมาตั้งแต่วันที่ 26  พฤศจิกายน  2547  จนถึงวันที่  8  กุมภาพันธ์  2548  ทำให้จำเลยต้องเสียค่าจ้างให้ลูกจ้างของจำเลย  ที่ทำงานให้ผู้รับเหมา  เมื่อโจทก์ได้กระทำความผิดจนเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์และการกระทำของโจทก์ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย  จำเลยจึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ   ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ย
        2. โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
        3. มีปัญหาวินิจฉัยว่าการที่โจทก์สั่งให้คนงานของจำเลยไปช่วยทำงานในส่วนที่ผู้รับเหมา ได้รับเหมาไว้โดยจำเลยต้องจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างดังกล่าว  เป็นการจงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายและ ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่  เห็นว่า  งานเชื่อมโครงหลังคาเหล็กบ้านพักคนงานของจำเลยเป็นงานที่นายกำพลผู้รับเหมาจากจำเลยมีหน้าที่ดำเนินการ โจทก์ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแต่ประการใดการที่โจทก์เข้าไปช่วยผู้รับเหมาทำงานเชื่อมโครงหลังคาเหล็กบ้านพักคนงานจึงเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่   อีกทั้งโจทก์สั่งคนงานของจำเลย  44  คน ไปทำงานดังกล่าวโดยมิชอบย่อมทำให้จำเลยขาดประโยชน์จากแรงงานของคนงานเหล่านั้นและจำเลยเป็นผู้จ่ายค่าจ้างให้คนงาน  ถือได้ว่าโจทก์จงใจทำให้จำเลยผู้เป็นนายจ้างได้รับความเสียหายแล้ว  สำหรับเงินสมทบส่วนของจำเลยในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่โจทก์ฟ้องเรียกเอาจากจำเลยนั้น  จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ   รายนี้แต่อย่างใด  โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้จ่ายเงินสมทบส่วนของจำเลยในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังกล่าวได้
       4. พิพากษายืน
                                                                            JJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJ
รวบรวมโดยนายไพบูลย์  ธรรมสถิตย์มั่น
www.paiboonniti.com
Code : 64