When:
09/08/2022 @ 8:25 am – 9:25 am
2022-09-08T08:25:00+07:00
2022-09-08T09:25:00+07:00

 

คำพิพากษาฎีกาที่   601 – 602/2557

นางสาวเยาว ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน                                                               โจทก์

บริษัท พี                                                                                                             จำเลย

เรื่อง      1. ขายกิจการทั้งๆ ที่มีกำไร แล้วเลิกจ้างโจทก์ เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมไหม

                  1 .โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า โดยโจทก์ที่  1  เป็นลูกจ้างตั้งแต่วันที่  17 มี นาคม 2523 ครั้งสุดท้ายดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติ ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 75,295 บาท โจทก์ที่ 2 เป็นลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2531 ครั้งสุดท้ายทำหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปฏิบัติการ ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  28,538  บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 25 ของเดือน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2548 เลิกจ้างโจทก์ทั้งสองในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 เนื่องจากจำเลยจะไม่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอีกต่อไป จำเลยได้ขายกิจการไป กิจการของจำเลยมีกำไร จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม โจทก์ที่ 1 ขอเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000,000 บาท โจทก์ที่ 2 ขอเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
                  2. จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลสัญชาติเนเธอร์แลนด์ จำเลยประกอบธุรกิจเดินเรือ ระหว่างประเทศ มีสาขาในประเทศไทย โจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างจำเลยประจำสาขาในประเทศไทย มีหน้าที่รับจองระวางและเก็บค่าระวางแทนบริษัทแม่ โจทก์ที่ 1 ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการ  เดือนละ 68,295 บาท ค่ารถเดือนละ 6,000 บาท และค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่เดือนละ 1,000 บาท  รวมเป็นเงินเดือน 75,295 บาท  โจทก์ที่ 2 ได้รับเงินเดือนละ 20,038 บาท ค่ารถเดือนละ 8,500 บาท  รวมเป็นเงินเดือน 28,538 บาท สาเหตุที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสอง เนื่องจากบริษัทแม่ของจำเลยที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ขายกิจการให้บริษัทอื่น และเลิกกิจการเดินเรือของตนเอง จำเลยบอกกล่าวการเลิกจ้างให้โจทก์ทั้งสองทราบล่วงหน้าเป็นเวลาถึง 2 เดือน และจำเลยจ่ายค่าชดเชย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี 2549 ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย โบนัสตามสัดส่วน เงินช่วยเหลือพิเศษ  ให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 204,885 บาท รวมเป็นเงินซึ่งจำเลยจ่ายให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 2,666,376.36 บาท และจ่ายให้โจทก์ที่ 2 เป็นเงินทั้งสิ้น 594,942.27 บาท ดังนั้นการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองจึงไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้งหรือปราศจากเหตุผล แต่เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรมแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
                3. ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสอง
                4.  ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยขายหุ้นทั้งหมดให้บริษัท เอ.พี. วันที่ 13 ธันวาคม 2548 จำเลยเลิกจ้างประจำสาขาในประเทศไทยทั้งหมด โดยให้มีผลในวันปิดกิจการในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 ทั้งนี้บริษัท เอ.พี. รับลูกจ้างของจำเลยสาขาในประเทศไทยไปเป็นลูกจ้างประมาณ 90 คน โดยนับอายุการทำงานใหม่ แต่โจทก์ทั้งสองไม่ได้รับการพิจารณา เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองแล้วจำเลยได้ (1)จ่ายค่าชดเชย (2)ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี (3)และโบนัสให้โจทก์ทั้งสอง (4)จ่ายค่าจ้าง  แทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้โจทก์ (5)จ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 1,466,558.36 บาท (6)โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 246,282.94 บาท (7)เงินช่วยเหลือพิเศษกรณีไม่ได้รับเสนองานจากบริษัท เอ.พี.  ให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 75,295 บาท โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 28,538 บาท และ(8)เงินพิเศษเนื่องจากทำงานกับจำเลยจนถึงวันที่มีผลเป็นการเลิกจ้างให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 204,885 บาท ตามพฤติการณ์ต่างๆ ดังกล่าว การที่จำเลยเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมดที่ทำงานประจำสาขาในประเทศไทย โดยมิใช่เลือกเลิกจ้างเฉพาะโจทก์ทั้งสองเท่านั้น จึงมิใช่เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ทั้งสอง กรณียังถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม เห็นว่า แม้จำเลยจะขายหุ้นทั้งหมดให้บริษัท เอ.พี. ในราคาสูงโดยไม่ปรากฏว่าก่อนขายจำเลยประสบภาวะขาดทุนและจำเลยเลิกจ้างโดยไม่ได้เป็นความผิดของโจทก์ทั้งสองก็ตาม แต่การที่จำเลยขายกิจการทั้งหมดโดยไม่มีธุรกิจที่จำดำเนินกิจการอีกต่อไป ทั้งบริษัทแม่และบริษัทสาขาในต่างประเทศรวมถึงสาขาในประเทศไทยและจำเลยเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมดโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะโจทก์ทั้งสอง ทั้งจำเลยได้จ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษกรณีไม่ได้รับเสนองานจากบริษัท เอ.พี. ให้โจทก์ทั้งสองกับเงินพิเศษเนื่องจากทำงานกับจำเลยจนถึงวันที่มีผลเป็นการเลิกจ้างให้โจทก์ที่ 1 เป็นจำนวนพอสมควรนอกเหนือจากเงินที่จำเลยต้องจ่ายตามกฎหมายให้แก่โจทก์ทั้งสองอีกด้วย ในกรณีเช่นนี้ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมต่อโจทก์ทั้งสอง ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว
              5. พิพากษายืน
                                                                         Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї Ї

รวบรวมโดยนายไพบูลย์  ธรรมสถิตย์มั่น
www.paiboonniti.com

Code : 66